พาเที่ยวเมืองอู่หลง (wulong) เมืองมรดกโลก
อู่หลง (wulong) เมืองมรดกโลก
By Pornphen Kijcharoenwong
เทียนเซิงซานเฉียว Three Natural Bridges (天生三桥) Tian sheng san qiao อุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ มรดกโลกของจีน จุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองอูหลง Wulong (武隆喀斯特) เมืองที่อากาศดี๊ดี สูดหายใจเข้าปอดได้อย่างเต็มที่เพราะไม่มีหมอกควัน (จากบุหรี่) สำหรับที่นี่น่าจะเป็นเมืองที่อากาศดีตลอดทั้งปีผู้เขียนไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน อากาศหนาวเย็นและยิ่งได้เดินเยอะ ๆ นะ บอกได้เลยว่า…หายหนาวกันเลยทีเดียว
หลังจากนั่งรถจากตัวเมืองฉงชิ่งมาได้ซักพักใหญ่ ๆ รถก็พาเรามาจอดยังลานจอดรถ และเมื่อเห็น อาคารรูปปิรามิด (Wulong Karst) แบบนี้แสดงว่าเราได้มาถึงจุดหมายแล้ว
เมื่อเดินเข้าไปข้างในอาคารแล้วก็ต้องต่อแถวเพื่อเข้าไปขึ้นรถชัตเติ้ลบัส นับเป็นโชคดีของเราที่มากันตั้งแต่เช้า เลยไม่ต้องเบียดเสียดกับคนอื่นที่จะเข้าไปในอุทยาน
รถชัตเติ้ลบัสก็จะนำเราไปส่งไว้ตรงหุ่น Bumblebee เนื่องจากที่นี่ก็เป็นฉากหนึ่งใน Transformer 4 : Age of extinction จึงมักเป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูป จุดนี้จะติดกับจุดตรวจตั๋วที่เราจะลงไปในหุบเขา
ทำเป็นหยุดแวะอ่านข้อมูลจากป้ายบ้างก็ดีจะดีไม่น้อยเผื่อจะมีอะไรดีๆ และน่าสนใจเพราะป่าเขาอุดมสมบูรณ์
ก่อนเข้าไปข้างในอุทยานต้องซื้อตั่วเพื่อขึ้นลิฟท์แก้วแล้วเดินเข้าชมอุทยานซ่ะก่อนตั๋วก็มีประมาณนี้แหละค่ะ เนื่องจากภายในเป็นบริเวณกว้างค่อนข้างใช้เวลาเดินนานพอสมควรแนะนำว่าควรติดน้ำดื่มซักขวดเอาไว้จิบระหว่างเดินทาง
ลิฟท์แก้วสูงระฟ้าแบบนี้สร้างติดกับภูเขา วิ่งขึ้น-ลงเร็วด้วยความเร็วสูง (ลงวูบเดียวถึง..ขอย้ำว่าวูบเดียวจริง ๆ) ลิฟท์แก้วจะนำเราลงไปข้างล่างเพื่อเดินชมภายในอุทยาน พอถึงด้านล่างแล้วท่านที่สะดวกเดินก็สามารถเดินหนีไกด์ไปได้เลย แต่สำหรับที่ไม่สะดวก จะขึ้นเสลี่ยงก็ทำได้เพียงแค่จ่ายตังค์นิดหน่อย (ต้องจ่ายเองนะคะ)
สงสัยมั๊ยว่าทำไมต้องนั่งเกี๊ยว หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “เสลี่ยง”
ดูความยิ่งใหญ่ของหุบเขาแห่งนี้สิคะ แม้แต่คนตัวใหญ่ ๆ อย่างเรายังดูเล็กลงได้ อีกทั้งการเดินส่วนใหญ่จะเป็นบันไดหิน เดินขึ้นลงลำบากเล็กน้อยสำหรับผู้สูงอายุ แต่ที่นี่ทำดีสำหรับคนที่ไม่สะดวกเดินก็ยังสามรถเที่ยวชมธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ได้
จุดแรกที่ต้องเดินผ่านคือ สะพานที่ 1 Tianlong Bridge
เดินลงมาเรื่อย ๆ จะเห็น Landmark ของที่นี้ก็ว่าได้ นั้นก็คือโรงเตี๊ยมเก่าที่ใช้ถ่ายหนังเรื่อง ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง (Curse of the Golden Flower) ของผู้กำกับ จาง อี้โหมวที่โด่งดังนั่นเอง
และที่เห็นโล่ง ๆ แบบนี้อย่านึกว่าไม่มีคนนะคะ แต่เพราะว่าผู้เขียนรอจนคนเดินจากไปจึงได้รีบถ่าย เพราะอีกซักพักก็จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวมายืนถ่ายรูปเต็มพื้นที่ไปหมด
หลังเดินออกจากโรงเตี้ยม เราก็มุ่งหน้าเดินไปยังสะพานแห่งที่ 2 คือ สะพานมังกรเขียว หรือ Qinglong Bridge ก่อนถึงสะพานขอแวะถ่ายรูปกับดาราซัก 1 รูป ไหนๆ ก็มาถึงที่แล้วนี่คะ
จะว่าไปมันก็ดูขัด ๆ ตาเหมือนกันนะคะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแต่มีอนุสาวรีย์หุ่นเหล็กมาตั้งโชว์ แต่บอกได้เลยว่าจุดนี้คนรอถ่ายภาพเยอะมาก เด็กๆ จะชอบมากเป็นพิเศษ
เดินมาถึงกลางทางแล้วบางท่านอาจสงสัยว่าเดินมาก็หลายชั่วโมงขนาดนี้ห้องน้ำห้องท่าหล่ะเป็นไง..สบายใจได้เลยค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวหลักของจีนเขาทำห้องน้ำไว้อย่างดี ถ้าได้เข้าเป็นคนแรก ๆ สะอาดแน่นอนค่ะ
สะพานที่ 3 Heilong Bridge เป็นสะพานหน้าผาที่แคบที่สุด มองขึ้นไปเป็นช่องตื้น ๆ มีน้ำตกไหลลงมา กระทบกับแสงแล้วสวยมากเลยค่ะ
แต่ละจุดที่ผู้เขียนหยุดถ่ายภาพ บอกได้เลยว่าสวยงามมากสวยจนอยากให้ไปเห็นด้วยตาของท่านเอง เพราะที่ถ่ายมาไม่ได้สวยเกินครึ่งของความเป็นจริงเลย
ภูเขาหน้าลิง ก็เป็นอีกจุดไฮไลท์เกือบจะสุดท้ายและเมื่อเดินผ่านมาจุดนี้อย่ามัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดินจนลืมแหงนหน้าขึ้นมองด้านบนนะคะไม่อยากให้พลาดภาพสวย ๆ
หยุดแวะถ่ายรูปนานไปหน่อย จนคนหามเสลี่ยงเริ่มเดินแซงแล้ว
เดินผ่านจุดนี้ไปก็จะเป็นสระมรกตวิวสองข้างทางสวยงามมาก เหมาะกับการที่เราจะแวะพักถ่ายรูป
เกือบจะเป็นจุดสุดท้ายที่พอผ่านจุดนี้ไปก็จะถึงทางออก ซึ่งเดินไปซักพักจะเจอจุดขึ้นรถกอล์ฟ ณ จุดนี้จะมีให้เลือกอยู่อยู่สองทางคือ ขึ้นรถกอล์ฟไปด้านบนหรือจะเดินกลับเองก็ได้แต่ต้องขึ้นบันไดค่อย ๆ ไต่ขึ้นบนเขาไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่รถจอด ให้เดาว่าผู้เขียนเลือกแบบไหน…รูปสุดท้ายคือคำตอบค่ะ
ทัวร์ราคาถูก ทัวร์ต่างประเทศ ทัวร์จีน